ถ้าพูดถึงคาร์โบไฮเดรต แน่นอนว่ามันสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดก็คือ คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งความแตกต่างของคาร์โบไฮเดรตทั้งสองชนิดนี้ก็คือ คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวมักจะเห็นในรูปแบบข้าวขาวหรือแป้งที่ผ่านการแปรรูป ส่วนคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนก็คือข้าวกล้องหรือธัญพืชที่ไม่ผ่านการแปรรูปนั่นเอง วันนี้เราจะชวนให้มาทำความเข้าใจการดูดไขมันเกี่ยวกับคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนกันมากขึ้น ตามมาอ่านพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนคืออะไร
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จัดเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ค่อยจะได้กินกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ข้าวโอ๊ต ธัญพืช เป็นต้น ซึ่งถ้าจะให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมักจะได้จากอาหารที่มีเส้นใย คาร์โบไฮเดรตชนิดนี้มีส่วนช่วยให้ร่างกายใช้เวลานานในการย่อย นั่นจึงทำให้รู้สึกอิ่มนานและช่วยลดการเพิ่มปริมาณน้ำตาลให้กับร่างกาย ส่วนสาเหตุที่คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนสามารถย่อยได้ช้ากว่าคาร์โบไฮเดรตธรรมดาก็เพราะว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมีส่วนประกอบของเส้นใยอาหารและมีขนาดโมเลกุลที่ใหญ่กว่านั่นเอง
5 ข้อดีของการเลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
สำหรับข้อดีของการเลือกกินอาหารที่จัดอยู่ในประเภทของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนก็คือ
1.ให้พลังงาน
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายสูงมาก ซึ่งเมื่อรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานเพราะสูญเสียพลังงาน การกินอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ธัญพืช จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ทันที จึงช่วยให้มีพลังงานมากยิ่งขึ้น
2.ช่วยพัฒนาระบบย่อยอาหาร
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนช่วยในการพัฒนาระบบย่อยอาหารให้มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น เนื่องจากมีส่วนประกอบของเส้นใย จึงช่วยในการย่อยอาหารได้ดี
3.ช่วยพัฒนาระบบเผาผลาญ
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนมีส่วนช่วยพัฒนาระบบเผาผลาญให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยให้ระบบภายในร่างกายพัฒนาได้อย่างสมดุล
4.ช่วยพัฒนาการนอนหลับ
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนช่วยในเรื่องของการนอนหลับ และช่วยให้นอนหลับได้อย่างยาวนาน เพราะถือเป็นสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเมลาโทนินภายในร่างกาย ซึ่งจัดเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้
5.ช่วยบำรุงสมอง
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสมอง และช่วยพัฒนาในเรื่องของฮอร์โมนที่จะช่วยส่งผลต่ออารมณ์ จึงทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้
8 แหล่งอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและควรกินในทุกวัน
สำหรับใครที่อยากหันมาบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในทุกๆ วัน แนะนำให้กินอาหารดังต่อไปนี้
1.ข้าวกล้อง
ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอร์รี ซึ่งจัดเป็นข้าวที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือขัดสี จะให้ปริมาณของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนตามความต้องการของร่างกาย แถมยังมีเส้นใยและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอีกด้วย
2.ข้าวโอ๊ต
ข้าวโอ๊ตจัดเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีใยอาหารที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับระบบย่อยอาหารภายในลำไส้ ช่วยลดไขมันภายในร่างกาย และยังให้พลังงานโดยทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน
3.คีนัว
คีนัวเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีสารอาหารมากมายที่ร่างกายต้องการ ไม่ว่าจะเป็นฟอสฟอรัส ทองแดง แมกนีเซียม โฟเลต เหล็ก หรือโปรตีน ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญต่อร่างกายด้วยกันทั้งสิ้น
4.ถั่วเลนทิล
ถั่วเลนทินปริมาณ 1 ถ้วย ให้ใยอาหารแก่ร่างกายได้มากถึง 16 กรัมเลยทีเดียว อีกทั้งยังให้โปรตีนมากถึง 30% อีกด้วย สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือมีส่วนประกอบที่นอกเหนือจากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน นั่นก็คือแมงกานีส โฟเลต และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย
5.ถั่วดำ
ถั่วดำเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีปริมาณใยอาหารมากพอๆ กับถั่วเลนทิน และยังมีสารอาหารอย่างเช่น เหล็ก และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันสารก่อมะเร็งในร่างกายอีกด้วย
6.ผักคะน้า
ผักคะน้าเป็นผักที่มีปริมาณแคลอรีต่ำ และยังมีสารอาหารจำพวกวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย อีกทั้งยังเป็นผักที่ให้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่หลายๆ คนยังไม่เคยทราบมาก่อน
7.กีวี
กีวีเป็นผลไม้ที่ให้ปริมาณวิตามินซีแก่ร่างกายมากกว่าส้ม แถมยังมีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนด้วยเช่นกัน
8.ราสป์เบอร์รี
ราสป์เบอร์รีอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และวิตามินหลากหลายชนิด แถมยังมีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนได้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้การกินราสป์เบอร์รียังเป็นการป้องกันและต่อต้านการเกิดมะเร็งในร่างกายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
แม้ว่าคาร์โบไฮเดรตจะถูกจัดเป็นสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย แต่หากกินในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือมากเกินความต้องการของร่างกาย ก็ย่อมเสี่ยงต่อการทำให้เกิดการสะสมของปริมาณไขมันในร่างกายได้ และอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคอื่นๆ ตามมาอีกด้วย